supportive care คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

supportive care หรือการดูแลแบบประคับประคอง เข้ามามีส่วนสำคัญที่สุดในชีวติประจำวันของทุกคน ทุกครอบครัว เพราะว่าเมื่อมีคนหนึ่งที่เจ็บป่วย หรือว่าอายุมากขึ้น ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนปรกติ ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น ซึ่งบุคคลที่เรียกว่าสำคัญมากที่สุด ก็คือคนในครอบครัว หรือว่าคนรักนั่นเอง นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ทำหน้าที่โดยตรงอยู่แล้ว 

ทำไมต้องมีการทำ supportive care 

ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีในการรักษา มีโรงพยาบาลที่ทันสมัยเต็มที่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าโรคทุกโรค จะสามารถหายขาดได้ทั้งหมดด้วยการรักษาในโรงพยาบาล มีจำนวนผู้ป่วยไม่น้อยเช่นกัน ที่มีอาการป่วยแล้วไม่หายจากโรค และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนเดิม และเมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ทำได้ก็คือ อาศัยการช่วยเหลือจากบุคคลอื่น โดยเฉพาะคนใกล้ตัว ในการดูแลรักษานั้น อาจจะไม่ได้ดูแลแล้วหายทุกรายเสมอไป เป็นการดูแลเพื่อให้ผู้ป่วยไม่ทรมาน เรียกว่าเป็นการดูแลตามอาการนั่นเอง เพราะท้ายที่สุดของชีวิตทุกชีวิตบนโลกนี้ ที่จะต้องเจอเหมือนกันทุกคนก็คือ เรื่องของความตายนั่นเอง  

แต่ในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ คนที่ยังอยู่และยังปรกติดี ก็จำเป็นต้องช่วยเหลือคนที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวมากที่สุด หากโรคหรือว่าอาการที่เป็นไม่ได้ร้ายแรงจนเกินไป ก็อาจจะมีโอกาสสูงมากที่สุดที่ตัวของผู้ป่วย สามารถกลับมามีชีวิตเป็นปรกติได้ และสิ่งที่เป็นตัวช่วยหลักในเรื่องนั้น ก็คือการดูแลเอาใจใส่ เพื่อให้ตัวของผู้ป่วยได้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ทั้งสุขภาพทางกายและทางใจ  

อาการของผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่พบเจอได้บ่อย 

อย่างไรก็ตาม ในการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบ supportive care ทางญาติหรือว่าครอบครัว ก็ต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้เช่นกัน เนื่องจากบางทีก็ไม่อาจยื้อชีวิตเอาไว้ได้เสมอไป ซึ่งอาการที่สามารถบ่งบอกได้ว่า ตัวของผู้ป่วยมีการทรุดหนักกว่าเดิม สังเกตได้จากอาการเหล่านี้คือ 

• รับประทานอาการไม่ได้ปรกติ จากที่แต่เดิมรับประทานได้ ก็กลายเป็นไม่ได้ 
• ไม่รับรู้ความรู้สึก หรือมีอาการมึนงง สติปัญญาในการรับรู้เรื่องต่างๆ ลดน้อยลงกว่าเดิม 
• มีการหยุดหายใจเป็นจังหวะ หรือว่ามีอาการเหนื่อยหอบขณะที่หายใจ 

• ชีพจรเต้นเบาลง 
• มีสารคัดหลั่งไหลออกอยู่ตลอดเวลา 

ถ้าหากพบว่าผู้ป่วยมีอาการเช่นนี้ แสดงว่าเป็นอาการที่ผิดปรกติ ถ้าหากเป็นการดูแลรักษาที่บ้าน ก็ควรนำไปพบแพทย์ด่วนที่สุด เพื่อดูอาการต่อไป ว่าควรแก้ไขอย่างไร และทางครอบครัวจะรับมืออย่างไรต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่คนในครอบครัวต้องรู้ก็คือ การเตรียมพร้อมในการรับมือกับความสูญเสียคนที่รักไป เพราะบางทีอาจจะรับมือได้ลำบาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำใจให้ได้ เพราะสุดท้ายแล้วทุกชีวิตก็จะมีวันสุดท้ายเช่นเดียวกับทุกคน 

สรุป 

จะเห็นว่ารายละเอียดของการดูแลรักษา supportive care เป็นขั้นตอนการดูแลที่มีการเอาใจใส่ดีพอสมควร โดยเฉพาะจากคนรัก จากคนในครอบครัว เพราะว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น ก็คือการสูญเสียนั่นเอง ถ้าหากมีการเตรียมพร้อมเตรียมการใจเอาไว้ก่อน ก็จะไม่มีการเสียสติจากเรื่องเหล่านั้น แต่ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง ทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแลอย่างสุดความสามารถ